tag:blogger.com,1999:blog-24783320919700459752024-03-14T01:59:26.859-07:00อาหารเสริม ลดความอ้วนAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/11871603212753356149noreply@blogger.comBlogger7125tag:blogger.com,1999:blog-2478332091970045975.post-62902531856038839602012-11-11T07:57:00.000-08:002012-11-11T07:57:55.335-08:00ลดหุ่นให้เข้าที่ ด้วยวิธีง่ายๆ<br />
<div style="text-align: justify;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiBzHH_ROAoWiLl1Cz9OceVyTQS9ug5BaECotmB8VHNKAN_5_d0xpKlUOfHnPlcT7eQoURi7BSjit79SkZVwDCqMRWNNXwkqJsVCAHtfR9fJF5k1duwomz-VJBUXeF-3Ayt-yiA5HlKPXbp/s1600/56576539039416263_oS1CArAy_b.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" height="400" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiBzHH_ROAoWiLl1Cz9OceVyTQS9ug5BaECotmB8VHNKAN_5_d0xpKlUOfHnPlcT7eQoURi7BSjit79SkZVwDCqMRWNNXwkqJsVCAHtfR9fJF5k1duwomz-VJBUXeF-3Ayt-yiA5HlKPXbp/s400/56576539039416263_oS1CArAy_b.jpg" width="265" /></a>อยาก
ลดหุ่นให้เข้าที่หรือ? ง่าย ๆ เลยค่ะ ลองเลือกทำตามวิธีลดความอ้วน
ที่กระปุกดอทคอมนำฝากในวันนี้ ดูสิว่า วิธีไหนเหมาะสมกับคุณบ้าง
หรือจะเลือกใช้ทุกวิธี เอาให้ผอมทันใจก็ย่อมได้ รับรองว่าดีต่อสุขภาพค่ะ</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
1.รับประทานผัก-ผลไม้มาก ๆ</div>
<div style="text-align: justify;">
อย่า
ละเลยการรับประทานผัก-ผลไม้เด็ดขาดค่ะ เพราะผักผลไม้มีทั้งเส้นใย
และสารอาหารต่าง ๆ ที่ดีกับคุณสาว ๆ แถมทานมากเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนด้วย</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
2. หลีกเลี่ยงการทานอาหารทอด ๆ และติดมัน</div>
<div style="text-align: justify;">
อาหาร
ทอด ๆ มาพร้อมกับน้ำมันที่จะมาทำให้คุณอวบอั๋นขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
เช่นเดียวกับอาหารเนื้อสัตว์ติดมัน เช่น กุนเชียง หมูสามชั้นทอดกรอบ
หนังไก่ กากหมู ถ้าไม่อยากอ้วน อดใจไว้ค่ะ</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
3.ทานดาร์กช็อกโกแลต</div>
<div style="text-align: justify;">
ใช่
ค่ะ คุณหูไม่ฝาด เรากำลังแนะนำให้คุณทานช็อกโกแลต
แต่ไม่ใช่ว่าช็อกโกแลตทั่ว ๆ ไปก็ทานได้หรอกนะคะ ต้องเป็นดาร์ก
ช็อกโกแลตเท่านั้น ถึงจะมีสารแอนตี้ออกซิเดนท์
และเป็นประโยชน์กับร่างกายของคุณสาว ๆ</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
4. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย</div>
<div style="text-align: justify;">
แทบ
จะทุกบทความ ที่แนะนำให้คุณดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8-12 แก้ว
เพราะน้ำจะช่วยเร่งระบบการเผาผลาญ จึงช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินให้คุณด้วย
ซ้ำยังช่วยให้คุณอิ่มเร็วขึ้นด้วย หากคุณดื่มน้ำ 1 แก้ว
ก่อนทานอาหารทุกครั้ง แต่อย่าชะแว้บ! ไปมอง "น้ำอัดลม" หรือ "น้ำผลไม้"
เชียว ยกเว้น "น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง" ที่เราแนะนำให้คุณดื่มได้</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
5.ดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้วหลังตื่นนอน</div>
<div style="text-align: justify;">
จำ
และทำให้เป็นนิสัย เพราะการดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้ว
ทันทีหลังจากที่คุณเพิ่งตื่นนอน จะทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว
และยังจะช่วยให้ระบบขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายทั้งหนักทั้งเบา
ทำงานได้อย่างคล่องตัว</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
6.ทานอาหารเช้า</div>
<div style="text-align: justify;">
จำ
ได้ไหมว่า อาหารเช้าคืออาหารมื้อสำคัญที่สุดของวัน ถ้าหากคุณสาว ๆ
พลาดอาหารเช้าในช่วงเวลา 6.00-10.00 น.ไปล่ะก็ คุณอาจจะรู้สึกหิวในมื้อต่อ ๆ
ไปมากขึ้น ทีนี้ล่ะ
คุณอาจจะเผลอตัวเผลอใจสวาปามอาหารที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่ยั้ง
แล้วจะลดน้ำหนักได้อย่างไรล่ะจ๊ะ</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
7.กินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน</div>
<div style="text-align: justify;">
การ
ไดเอท ไม่ได้สำคัญที่ว่าคุณทานอะไรเข้าไป แต่สำคัญที่ว่า
ทำไมคุณถึงทานเข้าไปต่างหาก ฉะนั้นแล้ว หากใครชอบกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์
เพียงเพื่ออยากทานสิ่งนั้น จงเปลี่ยนพฤติกรรมด่วนค่ะ
ทานให้แต่พออิ่มจะดีกว่า และควรทานเมื่อเวลาที่หิวจริง ๆ </div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
8.ออกกำลังกายสำคัญสุด ๆ</div>
<div style="text-align: justify;">
แน่
นอนว่า หนึ่งในวิธีที่คนทั่วโลกแนะนำก็คือ การออกกำลังกายนี่แหละ
เพราะมันจะช่วยรักษาน้ำหนักให้คงที่ในระยะยาวได้
แถมยังจะช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรีให้กลายเป็นพลังงานได้คราวละมาก ๆ ด้วย
หากคุณสาว ๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ลองหาเวลาเดินวันละ 30 นาที
สัปดาห์ละ 5 วัน นอกจากคุณจะควบคุมน้ำหนักได้ดีแล้ว
ยังจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงอีกด้วยล่ะ<br />
บทความจาก kapook.com</div>
Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/11871603212753356149noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2478332091970045975.post-60723800749863863492012-11-11T07:28:00.006-08:002012-11-11T07:49:18.235-08:00กินอย่างไรให้ผอม <br />
<div style="text-align: justify;">
คนอ้วนที่อยากผอมเร็วๆ
มักจะใช้วิธีเดินเข้าคลีนิกลดความอ้วน ใช้ยาลดความอ้วน
ซึ่งก็ได้รับผลที่ตามมาอย่างแสนสาหัส เพราะผอมลงจริงๆ
ทันตาเห้นแต่ก็จะผอมอยู่ไม่นานแล้วก็จะกลับมาอ้วนอีกเหมือนเดิมหรืออ้วนกว่า
เดิมด้วย นั่นเป็นเพราะแก้ปัญหาไม่ถูกวิธี แก้ที่ปลายเหตุ
ไม่ได้แก้กันที่ต้นเหตุ ซึ่งก็คือนิสัยการกินนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นหลายๆ
คนยังได้รับผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจตามมาอีกมากมาย ซึ่งไม่คุ้มค่ากันเลย</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjTQEuh-XEPE5Thp8PwO1AXWpcKXlTNDeQQmv44vnv3OZoV2m7n4hVVO5vZfigDK0ujQoOVFyZ_kk3XvVxXS7ysEEhig_lxwpaLanq1o_HK3fwr9qAXTAE1BhACVavxxaOAdTuTx6rmVxzR/s1600/171347960793048098_1NwqABFU_b.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjTQEuh-XEPE5Thp8PwO1AXWpcKXlTNDeQQmv44vnv3OZoV2m7n4hVVO5vZfigDK0ujQoOVFyZ_kk3XvVxXS7ysEEhig_lxwpaLanq1o_HK3fwr9qAXTAE1BhACVavxxaOAdTuTx6rmVxzR/s320/171347960793048098_1NwqABFU_b.jpg" width="240" /></a>เรา
กลับมาแก้ไขปัญหากันที่ต้นเหตุกันดีกว่าค่ะ
ก็คือแก้ไขนิสัยการกินของเราเนี่ยแหละค่ะ หยุด! อย่าเพิ่งบอกว่ามันยาก
ทำไม่ได้นะคะ เรามีเคล็ดลับที่จะช่วยคุณให้สามารถแก้ไขนิสัยการกินนี้ได้ค่ะ
ซึ่งต้องใช้ 3 ส่วนร่วมกันก็คือ ให้กำลังใจตนเองค่ะ
รู้วิธีกินอย่างถูกต้อง และออกกำลังกายค่ะ</div>
<div style="text-align: justify;">
ให้กำลังใจตนเอง</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
ต้อง
รีบทำลายวงจร ยิ่งกิน-ยิ่งอ้วน-ยิ่งอ้วน-ยิ่งกิน ให้ได้เสียก่อนค่ะ ขั้นแรก
เมื่อคุณตื่นเช้ามาให้ส่องกระจกบานใหญ่ๆ เลยค่ะ สำรวจรูปร่างตัวเอง
แล้วให้สัญญากับตัวเองเลยว่าฉันจะต้องมีรูปร่างที่ดีขึ้นให้ได้
บางคนอาจนำรูปดารานางแบบที่สวยๆ มาติดไว้เพื่อเป็นกำลังใจก็ได้ค่ะ
ว่าฉันจะต้องมีรูปร่างสวยแบบนี้ให้ได้ หรือบางคนอาจจะเอารูปป้าอ้วนๆ แก่ๆ
ที่เดินก็ไม่ค่อยจะไหว ใส่เสื้อผ้าก็โทรมๆ เก่าๆ
มาเป็นอุทาหรณ์ให้ตัวเองว่าฉันจะต้องไม่เป็นแบบนี้เด็ดขาดก็ได้นะคะ
แล้วแต่ใครใช้แบบไหนได้ผล มาถึงขั้นตอนที่ 2
คือหลังจากมืออาหารทุกครั้งมักจะเกิดอยากทานอาหารขึ้นมาอีก
(ปกติของคนอ้วนล่ะค่ะ) ให้ถามตนเองว่า "จำเป็นต้องกินอีกจริงๆ หรือ"
"ไม่กินได้มั้ย" ถ้าทำได้บ่อยๆ
ต่อไปจะเกิดความกระดากใจและเลิกกินไปได้เองในที่สุด
เพราะการกินจุบจิบหลังอาหารเนี่ยแหละ
เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้อ้วนง่ายที่สุด
เพราะการกินจุบจิบนั้นจะเป็นพลังงานส่วนเกินซึ่งถูกนำไปสะสมเป็นไขมัน
ทันที!! "ทุกๆ 250
แคลอรี่ที่ร่างกายได้รับเกินหรือเท่ากับพลังงานจากมันฝรั่งทอด 1 ถุง
หรือไอศกรีม 1 ก้อน หรือช็อกโกแลต 1 แท่ง จะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม 34 กรัม 1
เดือนจะเพิ่ม 1 กิโลกรัม" ดังนั้นต้องหาทางลดอาหารว่างหลังมื้ออาหารให้ได้
ขั้นตอนที่ 3 คือกำหนดจิตใจว่า "น้อยเหมือนมาก"
ทุกครั้งที่ตักอาหารเข้าปากให้คิดในใจเดือนตนเองให้ได้ว่าอาหารคำนี้จะกลาย
เป็นคำใหญ่ ทำให้อ้วนขึ้นได้ในเวลาไม่นาน แล้วเคี้ยวอาหารคำนั้น (ทุกคำ)
อย่างช้าๆ (ทำให้อิ่มเร็วและทานได้น้อยลงด้วย) ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
ก็จะรู้สึกว่าการทานอาหารเป็นเรื่องที่ยากขึ้น ขั้นตอนสุดท้าย
คือมาปลอบใจท้ายวัน เพราะว่าเพียงวันเดียว
ยังไม่สามารถผอมลงได้อย่างทันตาเห็นหรอก หลายคนก็จะท้อแท้ ดังนั้น
จะต้องไปยืนหน้ากระจกเช่นเดียวกับตอนเช้า และพูดว่า
"น้ำหนักตัวลดไม่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว จะต้องค่อยๆ ลด
พรุ่งนี้ต้องพยายามต่อไปอีกเรื่อยๆ น้ำหนักก็จะลงในที่สุด"
ทำเช่นนี้เพื่อป้องกันการท้อแท้เลิกลดอาหารเสียก่อนนั่นเอง
ในขั้นตอนการให้กำลังใจตนเองสำคัญที่สุดเพราะการลดน้ำหนักนี้จะสำเร็จได้
หรือไม่ขึ้นกับตัวเราเองเป็นสำคัญ
ถ้าเรายอมแพ้ไปซะก่อนก็จะไม่สำเร็จอย่างแน่นอน</div>
<div style="text-align: justify;">
เรียนรู้วิธีกินอย่างถูกต้อง</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
เมื่อ
จิตใจมั่นคงแล้วจะต้องเรียนรู้ว่าอาหารใดให้ประโยชน์กับเราบ้าง
หลายคนเชื่อว่าการไม่ทานอาหารที่มีไขมัน ไม่ทานกะทิ
แต่ทานแต่ผักกับโยเกิร์ตจะทำให้ผอมลงได้ แต่ก็ยังไม่เห้นลดได้ซะที
ซ้ำยังสุขภาพแย่ลงกว่าเดิมด้วย เพราะนั่นเป็นการเข้าใจผิดๆ ค่ะ
การรับประทานอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งน้อยเกินไปจะมีผลทำให้สัดส่วนของอาหาร
อีกอย่างมากไปโดยอัตโมัติ
(เพราะร่างกายต้องการสารอาหารที่มีสัดส่วนพอเหมาะในการทำปฏิกิริยาในร่างกาย
หากมีส่วนใดที่มากไปก็จะเหลือเก็บเป็นไขมันได้)
การทานอาหารที่ถูกต้องคือทานให้ครบ 5 หมู่ จะขาดหมู่ใดหมู่หนึ่งไม่ได้
การรับประทานมากเพียงหมู่เดียวไม่ใช้วิธีที่ถูกต้อง บางคนทานแต่ผัก
หรือธัญพืชอย่างเดียวโดยลดการทานอาหารประเภทอื่นหมด วิธีที่ถูกต้องคือ
ลดปริมาณอาหารแต่ละมื้อลงแต่ยังคงทานครบทุกส่วน
วิธีนี้จะทำให้น้ำหนักลดและร่างกายไม่อ่อนแอด้วย
และพฤติกรรมอีกอย่างที่ต้องเปลี่ยนก็คือ อาหารเช้าควรเป็นมื้อหนัก
ไม่ใช่อาหารเย็น มื้อเย็นควรเป็นอาหารเบาๆ และห้ามทานมื้อดึกเป็นอันขาด!!!
ถ้าติดของขบเคี้ยวให้เตรียมเป็นแครอท กะหล่ำปลี แตงกวา หั่นป็นชิ้นเล็กๆ
ใส่ตู้เย็นไว้ทานแทนพวกมันฝรั่งทอดดีกว่า</div>
<div style="text-align: justify;">
การออกกำลังกาย</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
หลาย
คนหาข้ออ้างสารพัดว่าไม่มีเวลา ไม่มีที่จะออกกำลังกาย
เหล่านี้เป็นข้องอ้างที่ปิดบังความจริงที่ว่า "ขี้เกียจ"
ออกกำลังกายนั่นเอง เพราะแค่คิดก็เหนื่อยแล้ว
ลองมาเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ดีกว่า ลองออกกำลังกายที่สนุกๆ
ด้วยการเปิดเพลงไปด้วยแบบเต้นแอโรบิกก็ได้
เดี๋ยวนี้มีท่าเต้นออกกำลังกายที่ทำให้สนุกสนานมากมายเช่น
การออกกำลังกายกึ่งๆ การฝึกการต่อสู้ หรือ Combat
หรือแบบที่แตกแขนงออกมาจกโยคะก็มีเช่น ชิบอล เป็นต้น
ลองหาคอร์สการออกกำลังกายที่สนุกๆ ใหม่ๆ ทันสมัย
และลองหาเพื่อนไปเล่นด้วยกันจะได้ผลกว่าเล่นคนเดียวด้วยค่ะ</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
ทั้ง
3 สิ่งนี้จะต้องประสานกันให้ได้ ทำอย่างสม่ำเสมอไปพร้อมๆ กัน
เมื่อน้ำหนักตัวลดลงแล้วก็จะต้องคงน้ำหนักไว้เช่นนี้ไม่ให้เพิ่มขึ้นมาอีก
ระยะหนึ่ง (เป็นเดือนค่ะยิ่งอายุเยอะเท่าไหร่ยิ่งนานค่ะ
เพราะร่างกายยืดหยุ่นไม่ไดีเท่าเด็กๆ) ให้ร่างกายได้ปรับตัวอยู่เช่นนั้น
แล้วจึงหยุดได้ (แต่ยังใช้นิสัยการกินอันใหม่นะคะ)
แต่ถ้าหากว่ากลับไปตามใจปากเหมือนเดิม
น้ำหนักก็เพิ่มขึ้นได้อีกไม่ยากเช่นกันค่ะ</div>
Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/11871603212753356149noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2478332091970045975.post-89040782580421623602012-11-11T07:28:00.003-08:002012-11-11T07:49:18.248-08:00ลดน้ำหนักให้เหมาะกับตัวเอง <br />
<div style="text-align: justify;">
สาวยุคใหม่ มักมีปัญหาเรื่อง
"น้ำหนัก" อย่างหนักที่สุดคือเป็น "โรคอ้วน" อย่างหลังนี่ถือเป็น "โรค"
ต้องหาหมอรักษา แต่ถ้าน้ำหนักเกินไปนิด ขาดไปหน่อย รักษาด้วยตัวเองได้
แต่ต้องมีข้อมูล มีผู้รู้ให้คำปรึกษาแนะนำ </div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEic68o7tCA3AdOkDu5pyWXIjXtdtI4yB8aiA8ceDA2tsJPzJExxMhyphenhyphenCN1ULivKjDHDqHMisilmYuEgXupxQI6coUlbYwJQjnnCVG6cp-Plh9UeWxzzxvLDdFANtGrd-VetzmPgvZH1Q2BQ9/s1600/unnamed1.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEic68o7tCA3AdOkDu5pyWXIjXtdtI4yB8aiA8ceDA2tsJPzJExxMhyphenhyphenCN1ULivKjDHDqHMisilmYuEgXupxQI6coUlbYwJQjnnCVG6cp-Plh9UeWxzzxvLDdFANtGrd-VetzmPgvZH1Q2BQ9/s320/unnamed1.jpg" width="246" /></a>เมื่อ
รู้ตัวหรือรู้สึกว่า เริ่มมีไขมันมาติดเกาะ หรือน้ำหนักเพิ่มเร็ว อึดอัด
เสื้อผ้าคับ หลายคนคงนึกถึงโปรแกรมลดน้ำหนักด้วยอาหาร
หรือการออกกำลังกายรีดไขมัน รักษาทรวดทรง หากคนเรานั้นเรื่องกินทำใจลำบาก
เป็นเรื่องยากที่ต้องจำกัดอาหาร กินให้น้อยลง หรือกินไขมัน-คาร์โบไฮเดรต
ลดลง ยากยิ่งกว่าตอนเข้ายิมออกกำลังกาย </div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
การ
ลดน้ำหนักจึงเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส ผู้ประสบปัญหาน้ำหนักเกินรู้ดีว่า
กว่าจะลดน้ำหนักได้สัก 1 กก. นั้น ยากนัก ใช้เวลา ใช้ความอดทนสูงสุด ฉะนี้
สูตรอาหารลดน้ำหนักของบรรดาดอกเตอร์และนักโภชนาการทั้งหลาย จึงขายดี
ขายข้ามทวีป อาทิ สูตรอาหารโลว์-คาร์บ ของ ดร.แอ๊ทกินส์ อ่านแล้วอาจถอดใจ
เพราะมักเป็นสูตรอาหารฝรั่ง ซึ่งตามปกติวิสัยคนไทยย่อมชอบกินอาหารไทย
มีรสจัดเข้มข้น อาหารฝรั่งอร่อยเฉพาะบางมื้อ ไม่ใช่ทุกมื้อ แต่การลดน้ำหนัก
ก็ไม่สาหัสหรอก ถ้าคุณพยายามใฝ่รู้ แสวงหาข้อมูลใส่ตัว
ลดน้ำหนักอย่างไรให้เหมาะกับคุณ แนะวิธีปฏิบัติตนที่เหมาะสม
สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคของแต่ละคน ใครมีนิสัยการกินอย่างไร
ลองเอาไปปรับใช้ มีดังนี้.- </div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
<b>1. รับประทานอาหารไขมันต่ำ (Low-fat diets)</b> </div>
<div style="text-align: justify;">
คือ
การจำกัดปริมาณอาหารประเภทเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นม แต่ใช่ว่าจะกินแต่ผัก
ผลไม้ได้หมด อาหารผัก-ผลไม้ ธัญพืช ก็ต้องเลือกชนิดที่มีไขมันต่ำด้วย
การควบคุมอาหารประเภทนี้เหมาะสำหรับ <br />
- คนที่ชอบรับประทานเนื้อสัตว์น้อยอยู่แล้ว <br />
- คนที่ชอบกินผัก ผลไม้ และธัญพืช <br />
- ต้องรับประทานอาหารในปริมาณมากถึงจะรู้สึกอิ่ม และควรรับประทานอาหารทุกๆ 4-5 ชั่วโมง <br />
- ไม่ชอบกินข้าวนอกบ้านมากนัก จึงไม่ค่อยมีผักผลไม้ให้เลือก และมีระดับคอเลสเตอรอลสูง </div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
<b>2. รับประทานอาหารพลังงานต่ำ (Low-caloric diets)</b> </div>
<div style="text-align: justify;">
การ
ควบคุมอาหารแบบนี้เน้นกินให้อิ่มนานขึ้น ปริมาณอาหารที่ได้รับจะน้อยลง
ในขณะที่ยังสามารถควบคุมความหิวได้
ควรมีผลไม้รสหวานแต่ให้พลังงานต่ำติดบ้านไว้เสมอ เช่น องุ่น แตงชนิดต่างๆ
หรือฟรุ้ต บาร์ แช่แข็ง การลดน้ำหนักด้วยการกินประเภทนี้ เหมาะสำหรับ <br />
- คนที่ชอบรับประทานอาหารหลากหลาย ไม่เน้นปริมาณ <br />
- พบว่าตัวเองชอบอยู่หน้าตู้เย็น และพยายามเลือกอาหารที่ตัวเองอยากรับประทาน <br />
- กินอาหารได้น้อยและเลือกเฉพาะอย่างที่ตัวเองชอบ <br />
- เคยเลิกควบคุมน้ำหนักอยู่หลายครั้ง เนื่องจากโปรแกรมอาหารที่ซ้ำซากจำเจ </div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
<b>3. การรับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ (Low-carb diets)</b> </div>
<div style="text-align: justify;">
เป็น
การรับประทานอาหารโปรตีนและไขมันให้มากขึ้น โดยลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลง
แต่ยังสามารถรับประทานอาหารประเภทไขมันอิ่มตัวสูง ได้เท่าที่ต้องการ เช่น
ชีสเบอร์เกอร์หรือเบคอน แต่ต้องจำกัดอาหารประเภทผักที่มีแป้ง
ผลไม้รสหวานจัด ขนมปัง และธัญพืช วิธีนี้เหมาะกับ </div>
<div style="text-align: justify;">
- คนที่ชอบรับประทานเนื้อสัตว์ ชีส และไข่ รู้สึกไม่อิ่มถ้าไม่ได้รับประทานอาหารดังกล่าว <br />
- ไม่จำเป็นต้องรับประทานอาหารหลากหลายชนิด <br />
- สามารถจำกัดปริมาณผักผลไม้ได้ <br />
- ไม่เน้นกินขนมปัง พาสต้า หรือของหวาน <br />
-
ชอบกินอาหารนอกบ้าน หรือเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งสามารถเลือกเมนูง่าย ๆ
ประเภทปลา หรือสลัดผัก ก็ได้ ลดน้ำหนักด้วยอาหารอย่างถูกวิธีแล้ว
อย่าลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้โปรแกรมลดน้ำหนักของคุณสัมฤทธิผล
</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
ขอขอบคุณข้อมูลจาก <br />
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ </div>
Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/11871603212753356149noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2478332091970045975.post-24098340153515570122012-11-11T07:28:00.000-08:002012-11-11T07:49:18.230-08:00ปรับสมดุลชีวิตง่ายๆด้วยตัวเอง <br />
<div style="text-align: justify;">
การแพทย์แผนตะวันออกเชื่อว่า
สุขภาพคนเราเกี่ยวพันกัน 3 ส่วน คือ กาย จิต และสิ่งแวดล้อม
เมื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งเสียสมดุลย่อมส่งผลต่อร่างกาย
และทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ตั้งแต่ ปวดหัว ตัวร้อน
จนถึงโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งได้ อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างของสังคม วัฒนธรรม
ช่วงเวลา และพื้นฐานของแต่ละคนแตกต่างกัน การดูแลสุขภาพรูปแบบต่างๆ
จึงไม่ได้เหมาะสมสำหรับทุกคน</div>
<div style="text-align: justify;">
<br />
<b>บันได 5 ขั้นเพื่อสมดุลชีวิต </b></div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
<b>ขั้นที่ 1 ฟังเสียงร่างกาย</b> <br />
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgp8jAY6O7LRfFWlKYpvn2qOcCy1Orvu-6hcOqT0Cp7TX37sn7bLYlqMsP6BAJf17OQnT90M-7uimUjnVpmPf7p8KjH7SbeRbzL-9LmOJhDOPhAjrEz_3CllMCw4w-TaH-ruJC8AdDnoaqy/s1600/450_20.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgp8jAY6O7LRfFWlKYpvn2qOcCy1Orvu-6hcOqT0Cp7TX37sn7bLYlqMsP6BAJf17OQnT90M-7uimUjnVpmPf7p8KjH7SbeRbzL-9LmOJhDOPhAjrEz_3CllMCw4w-TaH-ruJC8AdDnoaqy/s320/450_20.jpg" width="212" /></a>คุณ
สามารถสังเกตได้ว่าสิ่งไหนที่เหมาะกับตัวเอง หากรู้สึกร้อนหรือหนาวเกินไป
รู้สึกเจ็บปวด หรือแสบ ควรหยุดพฤติกรรมที่ส่งผลด้านลบต่อร่างกายนั้นทันที
เพราะร่างกายเรามีความฉลาดพอที่แยกแยะสิ่งดีและไม่ดีร่างกาย
แต่ทั้งนี้ต้องสังเกตด้วยนะคะ ว่าเสียงนั้นเป็นความต้องการของร่างกายจริงๆ
หรือเกิดจากกิเลสในใจเราเอง </div>
<div style="text-align: justify;">
<br />
<b>ขั้นที่ 2 สังเกตความเปลี่ยนแปลง</b> <br />
เมื่อ
ร่างกายเสียสมดุลอาจแสดงออกทางส่วนต่างๆ ของร่างกาย
หากหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงก็สามารถแก้ไขและป้องกันตนเองจากโรคภัยไข้
เจ็บได้ทัน เช่น ความผิดปกติที่ตา มีอาการตาห้ง ตาขาวขุ่น ตามีสีเหลือง ,
ริมฝีปากแห้ง แตกลอก , ลิ้น สามารถดูได้ทั้งสี รูปร่าง และขอบลิ้น ,
กลิ่นปาก หรือเล็บ ซึ่งสังเกตได้ทั้งสีและรูปทรงของเล็บ ถ้าเล็บขาว
อาจมีปัญหาที่ตับ เล็บเป็นสีแดง บวมโต อาจมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ เล็บเหลือง
หนา ยาวช้า อาจมีปัญหาที่ปอด เป็นต้น
เรื่องเหล่านี้เป็นการสำรวจร่างกายในเบื้องต้นเท่านั้น
ไม่ได้สรุปว่าต้องป่วยเป็นโรคร้ายเสมอไป
แต่เพื่อความไม่ประมาณคุณควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยอย่าง
ละเอียดต่อไป </div>
<div style="text-align: justify;">
<br />
<b>ขั้นที่ 3 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม</b> <br />
บ่อย
ครั้งที่เราดำเนินชีวิตตามความพอใจ จนส่งผลเสียต่อร่างกาย
การสร้างความสมดุลจึงต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เกิดความเหมาะสมทั้งต่อร่าง
กายและจิตใจ โดยเริ่มจาก</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
ตื่น
นอนแต่เช้ามืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ทำความสะอาดปากและฟันด้วยการแปรงฟัน
และขูดทำความสะอาดลิ้น ซึ่งจะเป็นการบริหารลิ้นไปในตัวด้วย ดื่มน้ำอุ่น 1
แก้ว หรือตามความต้องการของร่างกาย
เพราะน้ำจะช่วยขับของเสียทางไตและลำไส้ใหญ่ดีขึ้น </div>
<div style="text-align: justify;">
<b>อาบน้ำชำระร่างกาย วันละ 2 ครั้ง</b> <br />
เข้า
นอนก่อน 22.00 น. การนอนที่ดีต้องไม่ฝันและตื่นนอนด้วยความสดชื่น
ควรนอนในเวลากลางคืนเท่านั้น ยกเว้นอ่อนเพลียหรือไม่สบาย
หรือผู้สูงอายุสามารถนอนกลางวันได้ <br />
ไม่ควรนอนหลับในท่านอนคว่ำหน้า เพราะทำให้อวัยวะภายในถูกกดทับ </div>
<div style="text-align: justify;">
<b>ขั้นที่4 สร้างสมดุลด้วยการบริโภค</b> <br />
กิน
เมื่อรู้สึกหิว
เพราะความหิวหมายความว่าร่างกายได้เผาผลาญอาหารมื้อก่อนหมดแล้ว
การกินอาหารเมื่อยังไม่หิวเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยหลายอย่างทั้ง
เบื่ออาหาร ท้องอืด ไปจนถึงการถ่ายอุจาระทันทีหลังจากกินอาหาร เลือดจาง
หรือปวดท้องบ่อยๆ
แต่ถ้าถึงเวลากินแล้วยังไม่รู้สึกหิวแสดงว่าธาตุไฟหรือระบบย่อยอาหารอาจเสีย
สมดุล อย่ากินในขณะที่อารมณ์ผิดปกติ
เพราะจะทำให้ระบบย่อยอาหารเสียสมดุลและทำงานได้ไม่เต็มที่
อาหารเช้าควรเป็นอาหารเบา เช่น ข้าวต้ม และควรกินก่อน 8.00 น.
กินมื้อกลางวันก่อนเที่ยง ซึ่งควรเป็นมื้อที่หนักที่สุด
และกินมื้อเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดิน (18.00 น.)
เพราะการกินมื้อเย็นในตอนค่ำระบบเผาผลาญอาหารจะทำได้ไม่ดี
(แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ ก็ไม่ควรกินอาหารมากจนเกินไป)
กินอิ่มมากเกินไปไม่ดีต่อสุขภาพ และควรเคี้ยวอาหารช้าๆ
ไม่ควรดื่มน้ำมากก่อนหรือหลังกินอาหารเพราะมีผลต่อระบบย่อยอาหาร
กินอาหารในบรรยากาศที่รื่นรมย์ สถานที่เหมาะสม ไม่มีเสียง กลิ่น
หรือสิ่งรบกวน หลังกินอาหารควรนั่งพัก 2-3 นาที แล้วอาจเดินเล่น 10-20 นาที
เพื่อช่วยย่อยอาหาร <br />
งดอาหารสัปดาห์ละ 1 วัน เพื่อช่วยลดพิษในร่างกาย</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
<b>อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง</b></div>
<div style="text-align: justify;">
<b>อาหารจานด่วน</b><br />
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjnHbI7Qz0gz2kx7LUuH1DoMxngd_xPH8V_MxySw_S8WHLNZhKHR6CTjCdV48bw0YyWtLC1DTGlwe9li87V3svWQi1LN4ofFEMrdfCGak9RfdveuAItQiLL9_eu009r8bmKSs1Nn4dKfPl6/s1600/news_img_449064_1.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" height="132" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjnHbI7Qz0gz2kx7LUuH1DoMxngd_xPH8V_MxySw_S8WHLNZhKHR6CTjCdV48bw0YyWtLC1DTGlwe9li87V3svWQi1LN4ofFEMrdfCGak9RfdveuAItQiLL9_eu009r8bmKSs1Nn4dKfPl6/s200/news_img_449064_1.jpg" width="200" /></a>เพราะ
อุดมไปด้วยแป้ง ไขมัน น้ำตาล โปรตีน และมีแคลอรี่เกินกว่าที่ร่างกายต้องการ
อาหารที่มีโปรตีนมากเกินไป ในผู้ใหญ่ร่างกายต้องการโปรตีนวันละ 1
กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
แต่ในเด็กและวัยรุ่นอาจต้องการโปรตีนมากกว่านั้นเล็กน้อย
เมื่อร่างกายย่อยโปรตีนใช้แล้วจะเกิดกรดยูริกขึ้น หากบริโภคโปรตีนมากเกินไป
กรดยูริกส่วนเกินจะเข้าสู่กล้ามเนื้อ สะสมและตกตะกอน
ทำให้ปวดเมื่อยเวลาเคลื่อนไหว
ถ้ากรดยูริกไปตกตะกอนที่ข้อต่อจะทำให้กลายเป็นโรคเกาต์
หรือหากไปรวมอยู่ในเส้นประสาทจะกลายเป็นโรคเส้นประสาทอักเสบและเกิดอาการปวด
ตามเส้นประสาท นอกจากนี้โปรตีนที่มากเกินไปยังทำให้ไตทำงานหนัก
และอาจทำให้ไตพิการในผู้สูงอายุ </div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
<b>เนื้อสัตว์บางประเภท</b> <br />
ก่อน
ที่สัตว์จะถูกฆ่า โดยเฉพาะสัตว์ใหญ่ จะปล่อยสารแห่งความกลัว
เช่นฮอร์โมนอะดรีนาลินออกมา
ซึ่งสารเหล่านี้ยังตกค้างอยู่ทั่วไปในเนื้อสัตว์
เมื่อเรากินเนื้อเข้าไปจึงได้รับสารพิษเหล่านี้เข้าไปด้วย </div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
<b>น้ำตาลทรายและแป้งขัดขาว</b> <br />
เป็น
สาเหตุของโรคกระดูกผุ เพราะร่างกายต้องดึงแคลเซียม ฟอสฟอรัส
วิตามินบีรวมมาช่วยย่อยน้ำตาล
การกินหวานมากเกินไปยังทำให้ร่างกายใช้พลังงานจากน้ำตาลไม่หมด
และเก็บสะสมไว้ในรูปของไขมันตามส่วนต่างๆ ทำให้เกิดโรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง
เบาหวาน และฟันผุ </div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
<b>แป้งขัดขาว หรือข้าวขัดขาวทุกชนิด</b><br />
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiq7KP0KEeUX0qhDFzwIwKnGcu_VRnvox2gEBT15zGY5j0aqw8iUAaeDGFH_1lUgVmiaZtbORF6IBRgT_7qMABgZEKbdYXIPfPBfQbMDQm05NN7jIVpvWx4vr3JFcBxUweyq9asuVC2doWc/s1600/news_img_462534_1.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" height="193" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiq7KP0KEeUX0qhDFzwIwKnGcu_VRnvox2gEBT15zGY5j0aqw8iUAaeDGFH_1lUgVmiaZtbORF6IBRgT_7qMABgZEKbdYXIPfPBfQbMDQm05NN7jIVpvWx4vr3JFcBxUweyq9asuVC2doWc/s200/news_img_462534_1.jpg" width="200" /></a>มี
คุณค่าทางอาหารน้อย มีเพียงคาร์โบไฮเดรตเท่านั้น
ซึ่งต้องใช้วิตามินบีมาช่วยในการย่อย แต่แป้งขัดขาวไม่มีวิตามินปะปนอยู่เลย
ทำให้ร่างกายต้องดึงวิตามินในร่างกายมาใช้ จึงเกิดการเสียสมดุลขึ้น
น้ำอัดลม เป็นเพียงพลังงานเทียม ไม่มีสารอาหารใดๆ ทั้งวิตามิน และกรดอะมิโน
การกินน้ำอัดลมทำให้ตับต้องทำงานหนักเพื่อขจัดพิษ จนเกิดภาวะตับโตได้ </div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
<b>สุรา กาแฟ</b> </div>
<div style="text-align: justify;">
มีผลกระทบโดยตรงต่อแคลเซียมในร่างกาย และทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน </div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
<b>อาหารเย็นจัด หรือร้อนจัด</b> </div>
<div style="text-align: justify;">
อาหาร
ที่เย็นจัดเกินไปทำให้เพดานในปากเกิดอาการช็อค มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน
การกินอาหารเย็นจัดจึงควรกินช้าๆ และค่อยๆกิน
เช่นเดียวกับอาหารร้อนจัดเมื่อกินเข้าไปก็ส่งผลต่อกระเพาะ และลำไส้ได้</div>
<div style="text-align: justify;">
<br />
<b>ขั้นที่ 5 สร้างสมดุลใจ</b> <br />
มี
การพิสูจน์แล้วว่าเมื่อจิตใจไม่ดี ทั้งคิดร้ายหรือซึมเศร้า
ร่างกายจะหลั่งสารเคมีพิษบางอย่างออกมา ทำให้ส่งผลกระทบต่อร่างกาย
การคิดเชิงบวกจึงมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า โดยอาจเริ่มจากการยึดหลักธรรม
อาทิ พรหมวิหาร 4 หรืออิทธิบาท4 ในการดำเนินชีวิต ,
หมั่นฝึกจิตด้วยการนั่งสมาธิวันละประมาณ 10 นาที และทำบุญในแบบที่คุณชอบ
เช่นบริจาคโลหิต บริจาคหนังสือ หรือเข้าวัด ฟังธรรมะ</div>
<div style="text-align: justify;">
<br />
ขอขอบคุณข้อมูลจาก</div>
<div style="text-align: justify;">
<a href="http://www.sanook.com/">www.sanook.com</a></div>
Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/11871603212753356149noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2478332091970045975.post-6253308998240967752012-11-11T07:27:00.002-08:002012-11-11T07:49:18.239-08:00เซลลูไลท์ สารพัดวิธีกำจัดง่ายๆ ด้วยตัวเอง<br />
<div style="text-align: justify;">
เซลลูไลท์
ถือเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับสาวๆ ไม่ว่าจะสาวหุ่นเพรียวหรือสาวอวบ
ก็มีโอกาสเกิดเซลลูไลต์ได้ วิธีเช็ก เซลลูไลท์ ง่ายๆ
ด้วยการบีบบริเวณผิวหากเกิดลักษณะคล้ายผิวเปลือกส้ม นั้นแสดงว่าคุณกำลังมี
เซลลูไลท์ ซึ่งเซลลูไลต์เกิดจาการที่บริเวณนั้นเลือดไหลเวียนช้า
ในร่างกายของเรามีของเสียเกาะอยู่ตามเนื้อเยื่อ
ของเหลวที่เป็นของเสียจะเข้าไปดันทำให้ไขมันที่อยู่บริเวณนั้นแข็งตัวเป็น
ถุง ทำให้เลือดไหลเวียนตามร่างกายไม่สะดวก
จึงทำให้เกิดการกระจุกอยู่ตามต้นแขน ต้นขาและสะโพก มาเริ่มต้นกำจัด
เซลลูไลท์ วิธีง่ายๆ ด้วยตนเอง </div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEih7Mvmkx47OjrcvTvJLrHnVmqiMCbNQnghEgTMVRLuODfdF7eWyNjT1iIAhB24G2EshJLCaUUqu0MlWcXTAq6SpSYL0rLhvTaY3vzWw-ybJ8atETF4HN_nzSeT_bk1BuXqsIMuRtNkJ9Pg/s1600/01_44.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" height="400" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEih7Mvmkx47OjrcvTvJLrHnVmqiMCbNQnghEgTMVRLuODfdF7eWyNjT1iIAhB24G2EshJLCaUUqu0MlWcXTAq6SpSYL0rLhvTaY3vzWw-ybJ8atETF4HN_nzSeT_bk1BuXqsIMuRtNkJ9Pg/s400/01_44.jpg" width="266" /></a></div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
เริ่ม
ต้นจากการตื่นนอนในตอนเช้าก่อนแปรงฟัน ดื่มน้ำในอุณหภูมิปกติ 2 แก้ว
ช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและเพิ่มการเผาผลาญในตัวให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น<br />
<br />
การ
ดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร ด้วยวิธีการค่อยๆ จิบทีละนิดช่วยลด เซลลูไลท์ ต้นขา
อย่าดื่มรวดทีเดียว
เพราะไม่เช่นนั้นการดื่มน้ำของคุณอาจจะก่อให้เกิดอาการบวมน้ำได้<br />
<br />
อย่า
ใส่กางเกงขาสั้น หรือกระโปรงสั้นๆ ในขณะที่อยู่ในห้องแอร์
เพราะอากาศเย็นจะทำให้ร่างกายสร้างไขมันเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น
เมื่อส่วนที่อยู่ด้านนอกเครื่องนุ่งห่ม เช่น แขน ขา
ก็จะทำให้บริเวณดังกล่าวสะสมไขมันเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม<br />
<br />
เลี่ยง
การดื่ม ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่คุณได้ยินมาว่าสามารถลดความอ้วนได้
เพราะในเครื่องดื่มเหล่านั้นอุดมไปด้วยสารเติมความหวาน
เมื่อคุณดื่มเข้าไปความหวานเหล่านั้นอาจจะทำให้คุณไม่รู้สึกหิว
แต่การดื่มสารเติมความหวานเข้าไปมากๆ ก็มีโอกาสเสี่ยงอ้วนได้
ความอ้วนก็จะถามหาเอาค่ะ<br />
<br />
เปลี่ยนการรับประทานอาหารจาก
ไขมันไม่ดี ด้วยการรับประทานไขมันดีเข้าไป หลีกเลี่ยงอาหารฟาสต์ฟู้ด นมเนย
อาหารผสมสีอาหารเทียม เพื่อไม่ให้ตับทำงานหนักมากเกินไป<br />
<br />
ออก
กำลังกายด้วยการวิ่ง เล่นฟิตเนส จะช่วยเร่งให้เกิดการไหลเวียนของเลือดได้ดี
ยกน้ำหนัก จะช่วยลดการไหลเวียนของเลือดได้ดี
หรือการออกกำลังกายเฉพาะส่วนก็จะช่วยให้กระชับและสลายไขมันได้รวดเร็วขึ้น<br />
<br />
นวด
บริเวณที่เกิดเซลลูไลต์ เพื่อเป็นการกระตุ้นร่างกาย ด้วยวิธการ
กางนิ้วทาบลงที่ขาเริ่มจากข้อเท้า โดยนวดขึ้นมาที่ขาอ่อน
เน้นจุดที่มันหยุ่นๆ นิ่มๆ เหมือนฟองน้ำ ทำซ้ำกับอีกข้างทุกๆ เช้า
อดทนหน่อย เมื่อทำควบกับอีก 2 วิธี ไม่ช้ามันก็จะลดลงได้<br />
<br />
ทา
โลชั่นที่ช่วยลดเซลลูไลต์ ซึ่งอาจจะได้ทั้งลด เซลลูไลท์
และได้บำรุงผิวไปด้วย ไม่ต้องตบจนผิวแดงอย่างที่เคยทำกัน
เพราะโลชั่นนี้มีการทดสอบเพื่อช่วยให้เซลลูไลต์บางเบาลงได้<br />
<br />
เพียง
แค่ปฏิบัติตามวิธีง่ายๆ เหล่านี้ก็สามารถช่วยให้สาวๆ ลด เซลลูไลต์
ได้เยอะทีเดียว
อย่าลืมดูแลเรื่องอาหารการกินและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ</div>
<div style="text-align: justify;">
ขอบคุณข้อมูลจาก <a href="http://women.mthai.com/health/105731.html" target="_blank">women.mthai</a></div>
Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/11871603212753356149noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2478332091970045975.post-69277106565242693932012-11-11T07:25:00.002-08:002012-11-11T07:49:18.245-08:00ยาลดความอ้วน อันตรายที่คุณไม่ควรมองข้าม<br />
<div style="text-align: justify;">
“ความอ้วนนั้นนำมาซึ่งความทุกข์”
หลายๆคนคงเชื่ออย่างนั้นใช่ไหมครับ ใช่แล้วครับ
คงไม่มีใครอยากอ้วนจนถูกคนรอบข้างล้อแน่ๆ
เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้เสียความมั่นใจอย่างสุดๆแล้ว
ความอ้วนยังทำให้โอกาสเสี่ยงต่อโรคร้ายหลากหลายชนิดเพิ่มขึ้นอย่างคาดไม่ถึง
อีกด้วย
เพราะฉะนั้นเราจึงจะเห็นได้ว่าในยุคที่ข่าวสารกว้างไกลเฉกเช่นยุคปัจจุบัน
นี้แล้ว คนอ้วนหลายๆคนจึงหันมาใส่ใจในเรื่องของการลดความอ้วนกันมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามการลดน้ำหนักก็ต้องดำเนินไปอย่างถูกวิธี
ซึ่งในกรณีนี้เองที่มีกลุ่มผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักจำนวนมากเดินทางผิดสาย
เลือกลดน้ำหนักโดยการใช้ “ยาลดความอ้วน”
ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการลดความอ้วนที่มีความอันตรายสูงและสามารถส่งผลกระทบใน
เชิงลบให้แก่ผู้ที่รับประทานเข้าไปได้อย่างคาดไม่ถึง</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgdqIH4pvJdJJ2i_w3AwuvBKpX5RSCl-V82o3JMfPbyUirhxyVvIF8ZQK67BkjnrW8kVPxLHbltuBW_clB2tk6DPtoQhYgFjNo8Z57jNhQI3glSfR8eCZwaFanp-LKy0f_T9zvivNqZmEpP/s1600/21.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" height="167" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgdqIH4pvJdJJ2i_w3AwuvBKpX5RSCl-V82o3JMfPbyUirhxyVvIF8ZQK67BkjnrW8kVPxLHbltuBW_clB2tk6DPtoQhYgFjNo8Z57jNhQI3glSfR8eCZwaFanp-LKy0f_T9zvivNqZmEpP/s320/21.jpg" width="320" /></a>ใน
ความเป็นจริงแล้วการรับประทานยาลดความอ้วนโดยที่ไม่ให้เป็นอันตรายต่อชีวิต
นั้นก็สามารถทำได้
แต่ก็ต้องอยู่ในการดูแลควบคุมของแพทย์อย่างต่อเนื่องซึ่งในกรณีที่ยาก่อ
อันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตในสาวๆหลายรายนั้นก็เป็นเพราะได้ซื้อผ่านทาง
อินเตอร์เน็ทและมีการใช้งานยาอย่างผิดวิธีโดยที่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำ
แนะนำนั่นเอง
ซึ่งตามปกติแล้วยาลดความอ้วนนั้นจะมีฤทธิ์ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกไม่อยากอาหาร
อิ่มเร็วขึ้น ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานได้มากกว่าปกติ
ซึ่งการรับประทานยาชนิดนี้เป็นจำนวนมากๆติดต่อกันไปเรื่อยๆจะทำให้ผู้ใช้ยา
เกิดอาการหัวใจตายเฉียบพลันได้
ซึ่งถือว่าเป็นอาการความผิดปกติของร่างกายที่เกิดขึ้นฉับพลันและมีโอกาสการ
เสียชีวิตสูง อีกทั้งยังทำให้หัวใจเกิดอาการผิดปกติเต้นผิดจังหวะ
และในตัวยาเองก็มีสารกล่อมประสาทแฝงอยู่เล็กน้อยซึ่งถ้าใช้ยาติดต่อกันเป็น
ระยะเวลาหลายๆเดือนก็จะทำให้ผู้ใช้ยามีอาการจิตตก ประสาทหลอนได้อีกต่างหาก
อย่างไรก็ตามถ้าเราใช้ยาลดน้ำหนักเป็นระยะเวลาสั้นๆและมีแพทย์คอยดูแลอย่าง
ใกล้ชิดก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่อันตราย</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
นอก
จากการใช้ยาผิดขนาดใช้ยามากเกินไปแล้ว
การใช้ยาควบคู่กันหลายๆตัวก็อาจจะทำให้อันตรายถึงชีวิตคืบคลานมาหาเราได้
เช่นเดียวกัน หรือที่เรียกว่าอาการยาตีกันนั่นเอง
เพราะฉะนั้นแล้วผู้ใดที่ต้องการลดความอ้วนด้วยวิธีนี้และไม่มีแพทย์ดูแลให้
คำแนะนำอย่างใกล้ชิดก็แนะนำให้ลดด้วยวิธีอื่นจะดีกว่าครับ
ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอาหารหรือการออกกำลังกายแบบคาดิโอก็ถือได้ว่าเป็นทาง
เลือกที่น่าสนใจกว่า
และที่สำคัญการลดความอ้วนด้วยการออกกำลังกายยังทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นอีก
ต่างหาก</div>
Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/11871603212753356149noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2478332091970045975.post-21165887219278999182012-11-11T07:24:00.002-08:002012-11-11T07:49:18.226-08:00อันตรายจากการลดน้ำหนัก<br />
<div style="text-align: justify;">
การลดความอ้วนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ที่หลายๆคนเริ่มสนใจและเริ่มศึกษาให้ความสำคัญกันมากขึ้น
เนื่องด้วยในทุกๆวันนี้อาหารขยะนั้นได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากยิ่ง
ขึ้นด้วยสาเหตุหลายๆประการด้วยกันไม่ว่า รสชาติที่อร่อย ,
การใช้ชีวิตที่เร่งรีบ
ดังนั้นปริมาณคนอ้วนก็จึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนการลดความอ้วนได้กลายมาเป็น
อีกเรื่องหนึ่งที่หลายๆคนให้ความสำคัญนั่นเอง
และอย่างที่เราทราบกันดีว่าการลดความอ้วนนั้นก็ประกอบไปด้วยหลากหลายวิธีมาก
มายไม่ว่าจะเป็นวิธีการลดความอ้วนด้วยตัวเองหรือการใช้การแพทย์สมัยใหม่เข้า
มาช่วย
ซึ่งการที่เราจะเลือกวิธีการลดความอ้วนนั้นก็ถือว่าเป็นขั้นตอนที่เราต้อง
ใส่ใจให้มากๆเนื่องจากการลดความอ้วนแบบผิดวิธีนั้นอาจจะทำให้เกิดอันตรายแก่
ชีวิตได้ ยกตัวอย่างเช่น
การกินยาลดความอ้วนแล้วช็อคหัวใจวายที่เห็นได้บ่อยครั้งตามหน้าหนังสือพิมพ์
คำถามก็คือแล้วเราจะลดความอ้วนอย่างปลอดภัยได้อย่างไร</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
สำหรับ
วิธีการลดความอ้วนที่อันตรายมากๆอย่างการกินยาลดน้ำหนักนั้นก็ถือว่าเป็น
วิธีการลดความอ้วนที่ควรจะหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด
ซึ่งหลายๆคนก็อาจจะสงสัยว่ามันอันตรายจริงเหรอ ?
ทำไมรับประทานไปสักพักแล้วก็ไม่เห้นจะมีอาการแทรกซ้อนแต่อย่างใด ?
ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าการรับประทานยาลดความอ้วนเป็นประจำจะทำให้สารเคมีตกค้าง
และอาจจะทำให้เกิดสภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้ไม่วันใดก็วันนึง
ซึ่งในกรณีนี้เองที่ทำให้ผู้ที่นิยมลดความอ้วนด้วยวิธีนี้หลายๆคนได้เสีย
ชีวิตไปหลายรายแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องเรียนรู้วิธีการลดความอ้วนที่ปลอดภัย
ซึ่งก็จะแบ่งเป็นสองวิธีด้วยกันได้แก่ การลดความอ้วนด้วยการควบคุมอาหาร ,
และการลดความอ้วนด้วยการออกกำลังกายประเภทคาดิโอ</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEitFxnGoDJWZAwtJxTv3whezV3TbakgmHu0YahSPx6mDSxco0DavCDJdNJB1tiJseo4G2pcjK6n_yauNJYO-wFLSnp96M04CIFOpJmedLKA0a8hODK9pr7PTvzXl6RtDqTuGXyNcx8-87PE/s1600/jogging3.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEitFxnGoDJWZAwtJxTv3whezV3TbakgmHu0YahSPx6mDSxco0DavCDJdNJB1tiJseo4G2pcjK6n_yauNJYO-wFLSnp96M04CIFOpJmedLKA0a8hODK9pr7PTvzXl6RtDqTuGXyNcx8-87PE/s320/jogging3.jpg" width="213" /></a>การลดความอ้วนด้วยการควบคุมอาหารทำได้อย่างไร ?<br />
สำหรับ
การลดความอ้วนด้วยการควบคุมอาหารนั้นก็คือการเปลี่ยนนิสัยการกินของเรานั่น
เอง ยกตัวอย่างเช่น
บางคนอาจจะกินข้าวมื้อละสองทัพพีก็ให้ปรับลงมาให้เหลือเพียงทัพพีเดียวและทด
แทนด้วยการกินช้าๆซึ่งจะทำให้เรารู้สึกอิ่มพอดีเมื่อทานเสร็จ
และลดการกินจุกจิกนอกมื้อออกไป
โดยเฉพาะของทอดให้พยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้</div>
<div style="text-align: justify;">
</div>
<div style="text-align: justify;">
การลดความอ้วนด้วยวิธีการออกกำลังกายแบบคาดิโอคืออะไร ?<br />
การ
ออกกำลังกายแบบคาดิโอก็คือการออกกำลังกายประเภทที่ต้องออกแรงเรื่อยๆไม่มี
หยุดพักเป็นระยะเวลา 40-60 นาทีขึ้นไป ยกตัวอย่างเช่น การวิ่ง , การว่ายน้ำ
,การปั่นจักรยานเป็นต้น
ซึ่งการออกกำลังกายชนิดนี้จะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นเรื่อยๆซึ่ง
เมื่ออัตรการเต้นของหัวใจขึ้นไปถึงระดับที่พอเหมาะแล้วร่างกายก็จะหลั่งสาร
ชนิดหนึ่งออกมาซึ่งจะทำให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายดียิ่งขึ้น
และนอกเหนือไปกว่านั้นการออกกำลังกายชนิดนี้เมื่อผ่านพ้นนาทีที่ 40
เป็นต้นไปร่างกายจะดึงไขมันส่วนเกินออกมาใช้เป็นพลังงานทำให้น้ำหนักลดลง
นั่นเอง</div>
Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/11871603212753356149noreply@blogger.com0